วันนี้ (8 ก.ค.6) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เปิดเผยถึงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยกระทรวงสาธาณสุขรายงานสถานการณ์ระบาดเป็นเวฟเล็กๆ แม้จะเป็นการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5 ในประเทศไทย อัตราการครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ 11.9% จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการรองรับผู้ป่วย ส่วนจำนวนผู้ป่วยเจอแจกจบ หรือผู้ป่วยนอก เข้ารับการรักษาเฉลี่ยวันละ 29,000 คน แต่ยอมรับว่าผู้ป่วยปอดอักเสบและต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นบ้างเล็กน้อย ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่ 20 คน เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเรื้อรัง 100%
สำหรับการระบาดในขณะนี้พบว่า 54 จังหวัด แนวโน้มการติดเชื้อลดลง แต่อีก 23 จังหวัด กำลังเป็นขาขึ้น และเป็นเวฟเลกๆ โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว กทม. ชลบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทปราการ และภูเก็ต ซึ่งยอดพุ่งสูงขึ้น ส่วนจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ เชียงใหม่ ระยอง ตาก สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สงขลา กระบี่ พังงา นราธิวาส ตรัง ปัตตานี และยะลา จึงขอให้ทั้ง 23 จังหวัดที่กำลังเป็นขาขึ้น ช่วยกันชะลอการระบาด
“คาดว่าผู้ป่วยใหม่จะสูงขึ้นตั้งแต่วันนี้ และจะสูงสุดในเดือน ก.ย. จากนั้นจะเริ่มลดระดับลงในเดือน พ.ย. จึงขอให้ประชาชนชะลอการเกิด small wave เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สวมหน้ากาก หาก ปชช.หย่อนยานมาตรการ กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าวันที่ 1 ส.ค.จะมีผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 5 หมื่นคนต่อวัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การพิจารณาเกณฑ์ความรุนแรง ปัจจุบันเราอยู่ในช่องสีเขียวมีรักษาตัวนอนใน รพ.ประมาณ 2 พันคนต่อวัน เราอยากลงไปสู่ช่องสีขาว คือ ต่ำกว่า 2 พันคน แต่หากมี small wave อาจเป็นสีเหลืองคือรุนแรงน้อย 4-6 พันคนต่อวัน และสีแดงคือรุนแรงมาก 8,000-10,000 คน ต่อวัน