เช้านี้ที่หมอชิต – ที่จังหวัดกาญจนบุรี แรงงานประเทศเมียนมา ทะลักเข้าไทยไม่หยุด แม้เจ้าหน้าที่จะกวดขันอย่างเข้มงวด แต่ 2 วันที่ผ่านมาจับกุมแรงงานผิดกฏหมายได้มากถึง 400 คน ส่วนใหญ่จะเดินทางไปทำงาน ที่กรุงเทพ และจังหวัดสมุทรสาคร
เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (25 ต.ค.) ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน ที่136 และตำรวจสภ.ไทรโยค ตรวจค้นรถตู้คันหนึ่ง ขณะขับผ่านบริเวณบ้านพุน้อย หมู่ 7 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี พบแรงงานชาวเมียนมา นั่งมาเต็มคันรถ รวม 14 คน โดยมี 2 คน เป็นชายไทย
ทำหน้าที่นำพาแรงงานเหล่านี้ เข้าไปในพื้นที่ชั้นในของประเทศ สอบสวนทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจาก กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา จ่ายค่าหัวให้นายหน้าไปแล้วคนละ 20,000 บาท แต่ยังไม่มีจุดหมายปลายทาง ว่าจะไปทำงานในพื้นที่ใด เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ได้รับเบาะแสว่า มีแรงงานชาวเมียนมาอีกกลุ่ม หลบซ่อนตัวอยู่บริเวณป่าชายแดน พื้นที่หมู่ 4 ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พบกลุ่มแรงงานกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่า อีกจำนวน 34 คน สอบถามทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจากหลายจังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดพะโค จังหวัดเนปิดอ จังหวัดทวาย และจังหวัดเมาะลำไย ประเทศเมียนมา โดยจ่ายเงินให้นายหน้าไปแล้วคนละ 20,000 บาท มีจุดหมายปลายทางไปทำงาน พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
ยังไม่หมดแค่นี้ เวลาประมาณ 17.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีแรงงานชาวเมียนมาอีกจำนวนมาก ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาทางพื้นที่บ้านพุพญา หมู่ 4 ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบแรงงานชาวเมียนมาทั้งชายหญิงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่า รวมจำนวน 71 คน โดยทั้งหมดสารภาพว่าเดินทางมาจาก จังหวัดทวาย จังหวัดพะโค และ จังหวัดเมาะลำไย ประเทศเมียนมา มีจุดหมายไปที่ จังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม สระบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี และกรุงเทพมหานคร หากไปถึงปลายทางสำเร็จจะต้องจ่ายค่านายหน้าคนละ 17,000-20,000 บาท
ทั้งนี้ภายใน 1 วันเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายมากกว่า 100 คนหากรวมกับวันก่อนหน้า ยอดเพียง 2 วัน (24-25 ต.ค.) เกือบ 400 คน
และข้อมูลที่น่าตกใจคือ แรงงานเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ลักลอบเข้ามาแล้วถูกจับได้ แต่ยังมีแรงงานอีกจำนวนมาก ที่รอจังหวะลักลอบข้ามแดนเข้ามาทำงานในไทย ทำให้ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อสกัดกั้น ไม่ให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฏหมาย เพราะเกรงว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้