“สมุทรสาคร” พบติดโควิด-19 เพิ่ม 548 ราย แบ่งเป็นคนไทย 15 ราย ต่างด้าว 533 ราย รวมยอดสะสม 14,241 ราย
รายงานข่าวจากจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ณ เวลา 24.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 548 ราย แบ่งเป็นคนไทย 15 ราย และต่างด้าว 533 ราย รวมยอดสะสม 14,241 ราย รักษาหาย 1,794 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย ค้นหาเชิงรุกสะสมไปแล้ว 151,563 ราย
วานนี้ (4 ก.พ. 2564) นายสาธิต ปิตตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของจังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 8 ส่วนเพิ่มเติม วัฒนาแฟคตอรี่ (2) ม.3 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมีนายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ให้การต้อนรับ
โดย นายสาธิต กล่าวว่า วันนี้ได้มาติดตามสถานการณ์ทั่วไปของจังหวัดสมุทรสาคร โดยภาพรวมได้ปรับแผนการจัดการในเรื่องของ Bubble เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ชุมชน ซึ่งต้องเดินตามแผนนี้ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ส่งบุคลากรมาช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เป็นพิเศษ และส่วนทางพื้นที่ได้ขับเคลื่อนตามแนวทาง ซึ่งก็เดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้
โดยสภาพทั่วไปแล้วคิดว่าน่าจะมีทิศทางที่เริ่มเห็นตัวเลขที่ดีขึ้น โดยทางคณะกรรมการควบคุมโรคและสสจ.จังหวัด ไม่ให้สถานการณ์การแบ่งสีพื้นที่ในเขตอำเภอเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นตัวโรงงานและแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก และขณะนี้มีพื้นที่สีแดงอยู่บางส่วน เราก็พยายามควบคุมให้อยู่ในลักษณะแบบนี้ และค่อย ๆ จัดการกับมาตรการที่จะดำเนินการ โดยพยายามลดสีในพื้นที่เดิมให้ได้ ควบคุมไม่ให้สีจากรอยต่อของสีแดงกลายเป็นสีที่ควบคุมมากขึ้น นี่คือแผนที่ทางกระทรวงและทางจังหวัดได้ประสานงานและดำเนินการควบคุมเพื่อที่จะใช้เวลาในการที่จะควบคุมมันให้ได้ภายใต้ระยะเวลาหนึ่ง
ส่วนการประเมินสถานการณ์ขณะนี้มีความยากทั้งสิ้น เพราะเราต้องอยู่กับความเป็นจริง โดยกำลังสืบค้นหาผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ในการทำงานลักษณะที่การปิดกั้นก็ทำได้ยาก เนื่องจากว่าสภาพกายภาพของตัวผังเมืองหรือภูมิประเทศเอง เพราะฉะนั้นก็จะพยายามภายใต้แผน จะทำอย่างไรไม่ให้มันขยายวงโดยการเคลื่อนตัวของผู้ติดเชื้อ ให้ผู้มีความเสี่ยงให้อยู่กับที่มากที่สุด
ส่วนเรื่องการจัดการนั้นกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ติดเชื้อมีการจัดการในระบบ คนไทยให้อยู่ในโรงพยาบาลที่กระจายไปอยู่ในเขต 5 แรงงานต่างด้าวก็มาอยู่โรงพยาบาลสนาม เพราะฉะนั้นในเรื่องการรักษาไม่มีปัญหาอะไร เหลือเพียงสามารถควบคุมให้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อให้น้อยลงด้วยมาตรการนี้ได้อย่างไร
ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat