สมุทรสาคร จัดโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง…สนับสนุนการผลิตพลังงานทดแทนไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้ว”

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อเวลา10.00น.ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายธีรพัฒน์  คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง…สนับสนุนการผลิตพลังงานทดแทนไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้ว” โดยมี นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาครพร้อมเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัดสมุทรสาคร (เครือข่ายทสม.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบริษัท ธนโชค ออยไลท์ จำกัด เข้าร่วม 

โดยทางด้านนายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าสืบเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม. จังหวัดสมุทรสาคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับ บริษัท ธนโชค ออยไลท์ จำกัด ได้ดำเนินกิจกรรม “เสริมสร้างศักยภาพ ทสม. ในการขับเคลื่อน BCG Model” และเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา  โดยได้มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG Model และแนวทางการมีส่วนร่วมของ อปท. และ เครือข่าย ทสม. สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานการผลิตน้ำมันไปโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้วที่บริษัท ธนโชค ออยล์ไลท์ จำกัด ตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน หลังจากนั้น สำนักงานฯ ได้รับสมัครเครือข่าย ทสม. และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อตั้งเป็นศูนย์รับซื้อน้ำพืชใช้แล้ว โดยปัจจุบันมีศูนย์รับซื้อน้ำมันรวมจำนวน 40 แห่ง เป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 19 แห่ง และเป็นของเครือข่าย ทสม. จำนวน 21 แห่ง   ซึ่งการจัดโครงการในครั้งนี้ฯมีวัตุประสงค์ เพื่อลดของเสียจากครัวเรือนอันเป็นสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม และเพื่อลดการใช้ทรัพยากร ส่งเสริมการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ ตามโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG โมเดลรวมทั้งเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้ประชาชน นอกจากนี้ยังได้มีพิธีมอบป้ายไวนิลศูนย์รับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้ว ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่าย ทสม. อีกด้วย

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่