สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 จังหวัดสมุทรสาคร จากการรายงานข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 19 สิงหาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,739 คน จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อจากค้นหาเชิงรุก 31 คน และผู้ติดเชื้อที่มาจากการเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลอีก 1,708 คน ในจำนวนนี้เป็นคนที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร 1,627 คน ที่เหลือเป็นคนนอกจังหวัดอีก 81 คน ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 78,147 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 50,327 คน อยู่ระหว่างการรักษา 27,458 คน และผู้เสียชีวิตรายวันจำนวน 25 คน รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 362 คน
ขณะที่ทางด้านของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้ชี้แจงถึงการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ ในส่วนที่สมุทรสาครได้รับการจัดสรรมา โดยในส่วนของบุคลากรด่านหน้าที่เป็นแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุขนั้น ได้รับการจัดสรรมาครบตามจำนวนที่แจ้งเข้ามาแล้วทั้งหมดประมาณ 5,000 กว่าคน ที่เข้าเกณฑ์สามารถฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้ ส่วนบุคลากรด่านอื่นๆ ที่ทำงานด้านโควิด19นั้น ทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมดและจะได้รับการบูสเข็มสามด้วย แต่จะต้องเป็นวัคซีนชนิดอื่นที่ไม่ใช่ไฟเซอร์
นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับกลุ่มเปราะบาง ( 608) ที่ได้รับการจัดสรรแยกมานั้น ทางจังหวัดสมุทรสาครได้มา 10,000 โดส และได้เริ่มดำเนินการฉีด แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะฉีดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ กลุ่มเปราะบาง 7โรคเรื้อรังตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ 3 เดือนขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป โดยทางสาธารณสุขจังหวัดได้ตั้งเป้าที่จะฉีดให้กับกลุ่มนี้ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด ขณะที่ผู้ที่มาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนตามที่ได้นัดหมายไว้นั้น ในช่วงนี้จะสามารถเลือกได้ว่าจะฉีดวัคซีนชนิดไหน และจะฉีดแบบใด คือ จะฉีดวัคซีนไขว้แบบซิโนแวค กับ แอสตราเซเนก้า หรือฉีดอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่มีให้เลือก 3 ชนิดด้วยกันคือ ซิโนแวค 2 เข็ม, แอสตราเซเนก้า 2 เข็ม, หรือไฟเซอร์ 2 เข็ม แต่ถ้าหากวัคซีนชนิดใดชนิดหนึ่งหมดก็จะต้องเลือกฉีดวัคซีนชนิดที่เหลือเท่านั้น และจากการสอบถามคนที่มาเข้ารับบริการส่วนใหญ่ในช่วงนี้ก็จะเลือกฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งจากการตัดสินใจด้วยตนเองและลูกหลานบอกให้เลือกฉีดเนื่องจากมีความมั่นใจว่าปลอดภัยกว่าวัคซีนชนิดอื่นๆ