จากกรณีที่ ศบค.ได้ออกคำสั่งให้มีการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 นี้เป็นต้นไป แต่ยังคงให้จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยจะต้องปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สนามมวย สถานออกกำลังกายในร่ม ฟิสเนส สนามชนไก่ ชนวัว กัดปลา บ่อน สนามพระเครื่อง อาบอบนวด สปา นวดแผนไทย โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา สถาบันการศึกษา สนามเด็กเล่น สวนสนุก ร้านเกมส์ การประชุมงานเลี้ยง กิจกรรมประเพณี การแสดงสินค้า สถานีขนส่ง
ส่วนที่เปิดให้บริการได้ คือ ตลาด ตลาดนัด (จำกัดจำนวนคน) ร้านอาหาร (เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. นั่งรับประทานได้ งดดื่มสุราในร้าน) ศูนย์การค้า (เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น.) ศูนย์เด็กเล็กและสถานที่พำนักผู้สูงวัย สถานประกอบการโรงแรม โดยทั้งหมดจะต้องมีมาตรการอย่างเข้มงวด
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (30 ม.ค. 64) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากมาตรการของ ศบค.นั้น ทางคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดสมุทรสาคร จะประชุมหารือเพื่อออกประกาศคำสั่งในระดับจังหวัดสมุทรสาครต่อไป โดยภาพรวมจะออกประกาศตามที่ ศบค.กำหนดไว้ ไม่มีข้อกำหนดพิเศษแม้แต่ในพื้นที่สีแดง 8 ตำบล ที่ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดเคยออกคำสั่งควบคุมเข้มข้น เนื่องจากในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามที่ได้ออกคำสั่งควบคุมเข้มข้นในพื้นที่สีแดง 8 ตำบล ที่มีความเสี่ยงสูงนั้น ก็พบว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแรงงานข้ามชาติและอยู่ในโรงงานหรือสถานประกอบการ ประกอบกับมีการตรวจเชิงรุกอย่างเข้มข้นตลอดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ค้นหาผู้ติดเชื้อได้เป็นจำนวนมาก และสามารถควบคุมกลุ่มคนเหล่านี้ได้
ดังนั้นเมื่อ ศบค.มีคำสั่งให้ผ่อนปรนบางมาตรการได้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องออกมาตรการควบคุมพิเศษในพื้นที่สีแดง 8 ตำบลอีก ทำให้ทุกพื้นที่สามารถที่จะใช้คำสั่งเดียวกันได้ทั่วทั้งจังหวัด ขอเพียงแค่ให้ทุกคนตระหนักในเรื่องการปฏิบัติตนเองเพื่อป้องกันเชื้อโควิด 19 ตามมาตรการของสาธารณสุขเท่านั้น อีกทั้งการแก้ปัญหาในทุกระดับนั้น ต้องคำนึงถึงว่า เศรษฐกิจต้องเดินหน้า แก้ปัญหาโควิดต้องได้ผล จะทำเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ ทั้งสองอย่างต้องทำควบคู่กันไป เพื่อให้ชาวจังหวัดสมุทรสาคร กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ภายใต้การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ New Normal