วันนี้ ( 9 มี.ค.64) นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะเเพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เผยถึงความคืบหน้าในการฟื้นฟูร่างกายของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า จากการสังเกตการณ์ใกล้ชิดในระหว่างการออกกำลังกายประจำวัน ภายใต้การควบคุมของนักกายภาพบำบัด โดยมีเครื่องมือติดตามการแลกเปลี่ยนก๊าซอยู่ตลอดเวลา รับรองว่าหากเป็นตามแผนการฟื้นฟูอย่างเข้มข้นนี้ สมรรถภาพร่างกายของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ต้องกลับมาใกล้เคียงเดิมอย่างแน่นอน
นพ.นิธิพัฒน์ ระบุด้วยว่า ย้อนไป 10 วันก่อน คืนและวันของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร อยู่ได้ด้วยการเสริมความเข้มข้นออกซิเจนในอากาศที่ใช้หายใจให้อยู่ระหว่าง 27-30% ( ออกซิเจนในบรรยากาศรอบตัวเราปกติอยู่ที่ 20.9% ) เพื่อให้ระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดอยู่ระหว่าง 92-94% เพื่อให้เพียงพอกับการใช้งานของเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย เมื่อปอดเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องควบคู่ไปกับกล้ามเนื้อช่วยหายใจที่แข็งแรงขึ้น การพึ่งพาออกซิเจนจึงค่อยๆ หดหายไป เริ่มจากการลดความเข้มข้นในระหว่างวันลงจนหยุดได้ ยกเว้นให้เสริมแต่เวลาฝึกออกกำลังกายและตอนนอนกลางคืน
และในท้ายที่สุดสายออกซิเจน เป็นพันธนาการเพื่อสุขภาพชิ้นสุดท้ายที่ถูกกำจัด เมื่อร่างกายหายจากการป่วยไข้ครั้งร้ายแรง โดยทั่วไปกรณีผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงที่ฟื้นตัวดีเช่นนี้ แพทย์อาจให้กลับบ้านไปพักฟื้นต่อพร้อมให้ใช้ออกซิเจนชั่วคราวที่บ้านจนหมดข้อบ่งชี้ แต่ในกรณีของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ทีมศิริราชห่วงว่าหากส่งบุคคลที่หายใจเข้าออกเป็นงานเป็นการกลับคืนถิ่นเร็วไป ด้วยความไม่ยอมอยู่นิ่งของท่านคงหาเรื่องทำโน่นนี่นั่นไปเรื่อย จนร่างกายอาจฟื้นตัวกลับมาได้ไม่เต็มที่ จึงขอเวลาแฟนคลับอดใจรอกันอีกระยะหนึ่ง และยังขอให้งดเยี่ยมแบบต่อหน้าและผ่านสื่อต่างๆ ไปอีกระยะก่อน อีกอย่างภูมิต้านทานของร่างกายก็ยังไม่สมบูรณ์ทีเดียวนัก จึงอาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อนจากสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ง่าย รวมถึงการติดโควิดซ้ำใหม่ และด้วยเหตุนี้ทำให้ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร อยู่ในข่ายต้องได้รับวัคซีนโควิดเช่นเดียวกับกลุ่มเสี่ยงอื่น
“นี่ขนาดอยู่ในช่วงขอตัวไว้ในโรงพยาบาล คนใกล้ชิดยังนินทาว่ามีการแอบสั่งงานทางโทรศัพท์ให้เข้าหู ทีมศิริราชและครอบครัววิจิตร์แสงศรีจึงวางแผนร่วมกันว่า จะไปแสดงตัวให้พี่น้องชาวสมุทรสาครและลูกน้องในสังกัด ได้เห็นถึงศักยภาพที่หวนกลับคืนมา จากนั้นคงจะเอางานบางส่วนกลับไปทำที่บ้านพักที่ จ.อ่างทอง ในระหว่างที่ร่างกายยังไม่คืนกลับมาเต็ม 100 ส่วนการปรึกษาหารือข้อราชการต่างๆ กับลูกน้องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นคงใช้ระบบสารสนเทศมาช่วยได้ และเมื่อพร้อมเต็มที่จะได้กลับสู่สมุทรสาครอย่างถึงพร้อมให้สมกับที่มีการเฝ้ารอคอย เพื่อออกเดินทางเยี่ยมเยียนรับรู้เรื่องราวความเป็นไปของบ้านเมืองที่รับผิดชอบให้ถ้วนทั่วในทุกตารางนิ้ว” นพ.นิธิพัฒน์ระบุ