ไปตรวจสอบที่ต่างจังหวัดกันบ้าง ซึ่งที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ได้ฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน โดยกลุ่มแรกเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และผู้นำระดับจังหวัด ตลอดจนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งวันนี้จะฉีดกลุ่มนำร่องจำนวน 159 คน
สถานที่ฉีดวัคซีนของจังหวัดสมุทรสาคร อยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ซึ่งเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้เดินทางไปติดตามการฉีดวัควีนในพื้นที่จังหวัดสมทุรสาคร ด้วย ซึ่งเป็นจังหวัดแรกในประเทศไทยที่ฉีดวัควีนโควิด-19 ให้กับบุคลกลุ่มเสี่ยง
โดยวัคซีนที่ฉีดในจังหวัดสมทุรสาคร เป็นของซิโนแวค ซึ่งวันนี้จะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้นำจังหวัด และประชาชนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มนำร่อง 159 คน และคนแรกที่ฉีด คือ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) จะทยอยฉีดกลุ่มเป้าหมายจนครบทุกคน ซึ่งหน่วยบริการฉีดวัคซีนในจังหวัดสมุทรสาคร มีทั้งหมด 11 โรงพยาบาล ทั้งของรัฐและเอกชน
สำหรับจังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดเดียวที่ยังเป็นโซนสีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยได้รับวัคซีน 70,000 โดส จะฉีดให้กับ 4 กลุ่มเป้าหมายก่อน ประกอบด้วย บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 8,000 โดส เจ้าหน้าที่สัมผัสผู้ป่วย 6,000 โดส ผู้ที่มีโรคประจำตัว 64,000 โดส และประชาชนทั่วไปกับแรงงาน 10,000 โดส
ส่วนที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะได้รับวัคซีน 2,500 โดส โรงพยาบาลเกาะสมุยจึงได้ซักซ้อมแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายก่อน เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อต้องปฏิบัติจริงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ หลังวัคซีนล็อตแรกจะมาถึงในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้
ด้าน นายแพทย์วิฑูรย์ กมลเดชเดชา นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า การซักซ้อมแผนครั้งนี้เนื่องจากเป็นวัคซีนใหม่ เมืองไทยยังไม่เคยมีใครฉีด และทางโรงพยาบาลก็ยังไม่เคยฉีด เจ้าหน้าจึงต้องมีการซ้อมเพื่อความเข้าใจ หากพบปัญหาจะได้ดำเนินการแก้ไขในระหว่างขบวนการซักซ้อม เพื่อให้ผู้ที่มาฉีดวัคซีนได้รับความปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าโรงพยาบาลเกาะสมุย พร้อมที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19
ส่วนที่จังหวัดนนทบุรี ก็ได้รับวัคซีนล็อตแรกจำนวน 1,500 โดสแล้ว และได้ส่งไปเก็บรักษาที่ แผนกเภสัชกรรม อาคารศรีศุลาลัย โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า วัคซีนที่ได้รับน้อยกว่าจำนวนที่ได้รับแจ้ง จึงยังไม่สามารถแจกจ่ายได้ โดยในวันที่ 1 มีนาคมนี้ จะเรียกประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อจัดสรรวัคซีนให้กับบุคชากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่อยู่ในจุดเสี่ยงต้องเข้าปฏิบัติงาน จากนั้นก็จะเริ่มฉีดวัคซีนทันที