อาชญากรรม
หนุ่มป่วนเย้ยตำรวจ บุกทุบกระจกตู้ถังดับเพลิง หน้าป้อมตร.บางปลา
วันอังคาร ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565, 15.34 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 15 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับทราบมีเหตุทำลายทรัพย์สินบริเวณจุดตรวจบ้านเลขที่ 5 หน่วยบริการบางปลา หมู่ที่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า ทรัพย์สินที่ถูกทำลายเป็นฝาตู้ใส่ถังดับเพลิงซึ่งติดตั้งอยู่ด้านหน้าของหน่วยบริการบางปลา สภาพถูกทุบกระจกฝาแตก แต่ถังดับเพลิงยังคงอยู่ตามปกติ
จากการพูดคุยกับ ด.ต.สุรกัณฐ์ อ่ำกลัด ผบ.หมู่งาน (ป.) สภ.เมืองสมุทรสาคร และ ด.ต.อุเทน จันละคร ผม.หมู่งาน (ป.) สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจุดตรวจบ้านเลขที่ 5 หน่วยบริการบางปลา ก็บอกว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาประมาณ 8 โมงถึง 9 โมงกว่าๆ เพราะช่วงนั้นพวกตนได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตรวจเหตุรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ พอกลับมาก็เห็นว่าฝาของตู้ใส่ถังดับเพลิงที่ติดตั้งไว้นั้นถูกทุบกระจกจนแตก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อกลางดึกของวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้นเมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คน น่าจะอายุประมาณ 20 – 30 ปี ใส่หมวกแบบมีปีก สะพายกระเป๋าเป้ ถือค้อนปอนด์มา 1 อัน แล้วก็เดินรอบๆ หน่วยบริการฯ เพื่อส่องดูว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หรือไม่ ซึ่งในคืนเกิดเหตุครั้งแรกนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกไประงับเหตุ จึงสบโอกาสให้คนร้ายใช้ค้อนปอนด์ที่ถือมาทุบกระจกตู้ถังดับเพลิง ก่อนที่จะขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป และมาเช้าวันนี้ลักษณะของคนร้ายก็ใกล้เคียงกับผู้ก่อเหตุครั้งแรก อีกทั้งมีพฤติการณ์ในการก่อเหตุก็มีลักษณะเดียวกัน จึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน ส่วนสาเหตุก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ เข้ามาตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายหนุ่มป่วนเมืองคนนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ใกล้ๆ กับหน่วยบริการบางปลานั้น ก็มีทั้งคนที่เห็นคนร้ายและไม่เห็นคนร้ายเนื่องจากมาขายของหลังเกิดเหตุไปแล้ว ซึ่งในส่วนของพ่อค้าขายโตเกียวที่เห็นบอกว่า ตอนนั้นตนเองกำลังก้มหน้าก้มตาเตรียมทำขนมขาย จึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก จนได้ยินเสียงคล้ายกับกระจกถูกทุบจนแตก ก็เลยเงยหน้ามองแล้วเห็นว่าคนร้ายกำลังขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป พร้อมกับค้อนที่ถืออยู่ในมือ 1 อัน และจากเท่าที่เห็นเพียงผ่านๆ ก็เชื่อว่าไม่น่าจะใช่คนในพื้นที่.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่