แท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์อายุ 65 ปีขึ้นไป ในพื้นที่ 29 จังหวัด เริ่มลงทะเบียนยืนยันตัวตนตั้งแต่ 25 ต.ค. ก่อนรับเงินเยียวยา 5,000-10,000 บาท “บิ๊กตู่” ห่วง เน้นย้ำเยียวยารวดเร็วและทั่วถึง
วันที่ 24 ต.ค. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 และประกอบอาชีพขับรถอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด
- ผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ประกอบอาชีพขับรถใน 13 จังหวัด จะได้รับเงินช่วยเหลือ 10,000 บาทต่อคน (กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา)
- ผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ประกอบอาชีพขับรถใน 16 จังหวัด จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อคน (กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง )
สำหรับความคืบหน้าขณะนี้ กรมการขนส่งทางบกเปิดให้ผู้ขับรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ที่เข้าเงื่อนไข มีรายชื่อในฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก แบ่งเป็นผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) ประมาณ 12,000 คน และผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ (วินมอเตอร์ไซค์) ประมาณ 3,000 คน สามารถลงทะเบียนจองคิวรับบริการได้แล้ว ถึงวันที่ 5 พ.ย. 2564 ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th โดยตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 18 ต.ค. มีแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซต์จองคิวผ่านระบบแล้วประมาณ 7,000 คน ถือเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและลดความแออัดตามมาตรการด้านสาธารณสุขก่อนเปิดให้เดินทางมาลงทะเบียนด้วยตัวเองเพื่อยืนยันตัวตนและตรวจสอบเอกสารในวันที่ 25 ต.ค.นี้
โฆษกรัฐบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่จองสิทธิ์ในระบบแล้ว ผู้ขับรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ต้องเดินทางมาลงทะเบียนด้วยตนเอง เป็นการยืนยันศักยภาพในการขับรถสาธารณะเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ระหว่างวันที่ 25 ต.ค.-5 พ.ย. 2564 ณ อาคาร 6 ชั้น 7 กรมการขนส่งทางบก, กลุ่มวิชาการขนส่งสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 และกลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ขอให้เตรียมเอกสารให้พร้อม ได้แก่ ใบคำขอเพื่อรับสิทธิช่วยเหลือ (ณ จุดลงทะเบียน) บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ บัตรประจำตัวผู้ขับรถสาธารณะ กรณีรถเช่า ต้องมีข้อมูลทะเบียนรถที่เช่าขับและผู้ให้เช่ารถได้ โดยกรมการขนส่งทางบกจะทำการตรวจสอบข้อมูลจากผู้ให้เช่าก่อนรับสิทธิ รถที่ใช้ประกอบอาชีพต้องชำระภาษีครบถ้วน
สำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือจะจ่ายผ่านบัญชีพร้อมเพย์เฉพาะการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนแบ่งเป็น 2 รอบ ได้แก่
- รอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-12 พ.ย. 2564 สำหรับรถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล
- รอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-26 พ.ย. 2564 สำหรับรถแท็กซี่ที่เช่าขับ
“ในส่วนของมาตรการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะครั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้เร่งรัดกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว จึงขอเชิญชวนแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ อายุเกิน 65 ปี ที่มีสมาร์ทโฟน หรือสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตลงทะเบียนจองคิวไว้ก่อนเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรับบริการและลดความแออัดตามมาตรการด้านสาธารณสุขด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบให้รวดเร็วและทั่วถึงทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ มาตรการช่วยเหลือเยียวยาต่างๆ เริ่มชัดเจน ส่งผลอย่างเป็นรูปธรรม ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้”.