ปภ.ประสาน 11 จังหวัด รวมกรุงเทพฯ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ‘เจ้าพระยา-ท่าจีน’ ช่วงวันที่ 20-30 ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (18 ตุลาคม) กรณีประสาน 11 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น ช่วงวันที่ 20-30 ตุลาคม 2564
พร้อมกันนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือ แจ้งจังหวัดประสาน อปท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ว่าได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ปริมาณฝนตก (ONE MAP) ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์กรมหาชน) คาดการณ์ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากแม่น้ำปิง จะทำให้มีน้ำไหลผ่านบริเวณอำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มสูงสุดจากอัตรา 2,484 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 3,000-3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 22 ตุลาคม 2564
โดยจะบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาด้วยการหน่วงน้ำและผันน้ำเข้าคลองต่างๆ ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อยู่ในเกณฑ์ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำใน แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 0.20-0.40 เมตร ในช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2564
สำหรับ แม่น้ำท่าจีน มีปริมาณน้ำไหลล้นข้ามทางระบายน้ำล้น เขื่อนกระเสียว และไหลไปสมทบกับปริมาณน้ำท่าที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายเขื่อน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงแม่น้ำท่าจีน 150-200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ จะบริหารจัดการโดยผันน้ำเข้าทุ่งโพธิ์พระยาเพื่อลดปริมาณน้ำหลาก ปริมาณน้ำส่วนที่เหลือจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่จังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 0.30-0.50 เมตร ในช่วงวันที่ 20-27 ตุลาคม 2564
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน 11 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพมหานคร ตลอดจนศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีน จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม และระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรทางน้ำ
ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้อยู่ในสภาพแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประชาชนหากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอพพลิเคชั่น “พ้นภัย” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป